Intonation ภาษาอังกฤษ (ฉบับเข้าใจง่าย)

19639
intonation in English

ในการเรียนภาษาอังกฤษนอกจากการเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษแล้วยังมีเรื่องการออกเสียงด้วยค่ะ การออกเสียงภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Intonation นั้นมีความสำคัญที่จะทำให้การพูดออกเสียงเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ

Intonation คือการออกเสียงสูงต่ำ ขึ้นลงในภาษาอังกฤษ แม้ภาษาอังกฤษจะไม่มีข้อกำหนดในการใช้วรรณยุกต์ แต่ก็ยังมีเรื่องการใช้ Intonation ค่ะ

.

รูปแบบการใช้ Intonation มี­ 2 ประเภท ดังนี้
1. Falling intonation = การลงเสียงต่ำ
2. Rising intonation = การขึ้นเสียงสูง

เมื่อใดจะต้องใช้เสียงสูง เสียงต่ำนั้น ครูณิชาเรียบเรียงมาให้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

การใช้ Falling Intonation (เสียงต่ำ)
ใช้กับประโยคที่มีใจความสมบูรณ์ธรรมดา เช่น
It’s pretty good.
I cannot do that.

ใช้กับคำลงท้ายประโยคคำถามประเภท Wh- Question เช่น
When do you usually go to school?
What time is it?

ใช้กับประโยคคำสั่งที่เน้นหนักไปที่คำใดคำหนึ่ง (เน้นคำสั่ง)
Don’t annoy me this time!
(อย่ามากวนฉันตอนนี้นะ//ถ้าไปเน้น annoy อาจจะสื่อว่าอย่ากวนแต่ให้ทำอย่างอื่นได้แทน อ่าว ๆ )
Start it now! (เริ่มได้แล้ว!)

การใช้ Rising Intonation (เสียงสูง)
ใช้ลงท้ายคำถามประเภท Yes/No Question ทั่ว ๆ เช่น
Is that true?
Do you agree?

ใช้เน้นเสียงคำท้ายประโยคบอกเล่าที่เราต้องการให้ประโยคคำถาม เช่น
Your name is John. (บอกเล่า ชื่อของคุณคือจอห์นนะ)
Your name is John? (คำถาม ชื่อของคุณคือจอห์นใช่มั้ยคะ)

ใช้ในการทักทายทั่ว ๆ ไป เช่น
Good morning
Good afternoon
Good evening

ใช้ในการจะเข้าประโยค โดยเน้นเสียงไปที่คำเกริ่นนำ (เหมือนเป็นการเรียกความสนใจให้คนฟัง)
As we know, Industry today doesn’t exist in those day.

การพูดถึงสิ่งของที่เป็นหมวดหมู่ (พวกยกตัวอย่าง …, …, and …)
I love reading, swimming and listening to music.

นอกจากการใช้ Intonation เบื้องต้นพื้นฐานนี้ ในภาษาอังกฤษยังมีการเน้นเสียงที่คำใดคำหนึ่งในประโยคให้เกิดความหมายพิเศษที่เราต้องการจะสื่อด้วยค่ะ ตัวอย่างที่ครูณิชาได้ใช้สอนประจำคือ
“John hadn’t stolen that money.” จอห์นไม่ได้ขโมยเงินนั้นไปนะ

จากประโยคนี้เราสามารถใช้การเน้นเสียงคำใดคำหนึ่งเพื่อเกิดความหมายพิเศษได้ ตัวอย่างเช่น

John hadn’t stolen that money.
เน้นเสียงที่จอห์น หมายถึง จอห์นน่ะไม่ได้ขโมยเงินนั้นนะ
John hadn’t stolen that money.
ที่คุณบอกว่าจอห์นขโมยน่ะ จอห์นไม่ได้ขโมยเงินนั้นมา
John hadn’t stolen that money.
จอห์นมีเงินจริง แต่ไม่ได้ขโมยเงินนั้นมา (ได้มาด้วยวิธีอื่น)
John hadn’t stolen that money.
จอห์นไม่ได้ขโมยเงินก้อนนั้นมา (แต่ขโมยเงินแหละ แต่เงินก้อนอื่น)
John hadn’t stolen that money.
จอห์นไม่ได้ขโมยเงินนั้นนะ (ขโมยอย่างอื่นต่างหาก)

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับการออกเสียงภาษาอังกฤษ สามารถสื่อความหมายแฝงได้ด้วย เป็นสเน่ห์อย่าหนึ่งของภาษาอังกฤษเลยค่ะ สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มจะหัดเรียนภาษาอังกฤษ หัดออกเสียงแรก ๆ ก็มุ่งเน้นไปทาง Rising และ Falling intonation ก่อนค่ะ อาจจะยังไม่ต้องกังวลในการ Stress คำในประโยคมากนักค่ะ

การออกเสียงสูงต่ำในภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องจะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเจ้าของภาษามากยิ่งขึ้นค่ะ อย่างไรก็ลองฝึกฟังดูนะคะ สำหรับวันนี้ครูณิชาขอตัวไปก่อนค่า พบกันใหม่บทความหน้าจ้า 😊

Share
.