10 เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว

1563

วันนี้ครูณิชามีเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษมาฝากกันอีกแล้วค่ะ สำหรับใครที่กำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษบอกเลยว่าถ้าทำแบบนี้แล้ว 1-2 เดือนก็เห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ

และจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากทำทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป เราจะใช้ภาษาอังกฤษคล่องได้แน่นอน

.

1. อ่านทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษที่หามาได้
วรรณกรรมคลาสสิค หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ อีเมล์ โซเชียลมีเดีย ฉลากอาหาร กล่องขนม ทุกสิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะช่วยให้เราเก็บเกี่ยวคำศัพท์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา และยังเป็นการทบทวนคำศัพท์ที่รู้อยู่แล้วไม่ให้ลืมเลือนไปด้วย และเมื่อเราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ แล้วก็มาขั้นต่อไปเลย

2. จดคำศัพท์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
ไม่ปล่อยผ่านคำศัพท์ใหม่ ๆ เป็นวิธีที่ดั่งเดิมแต่ยังดีอยู่ (Oldies but Goodies) เป็นวิธีการเรียนที่เก่าแก่มาก แต่เมื่อเราได้เริ่มจดคำศัพท์ใหม่ ๆ เราก็จะเหมือนสัมผัสคำศัพท์นั้น ๆ ด้วยสายตา สมอง การเคลื่อนไหว หรือบางคนอาจจะคิดภาพตามตอนจดไปด้วย ทำให้มีการจดจำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เราสามารถที่จะจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เราเจอไว้หาความหมายในภายหลังได้อีกด้วยค่ะ

3. คุยกับคนจริง ๆ
เพราะภาษาเป็นเรื่องของการสื่อสาร ดังนั้นเราจะไม่พูดคุยกับมนุษย์ด้วยกันจริง ๆ ก็คงไม่ได้จริงมั้ยคะ ในเว็บไซต์ ในโซเชียลมิเดีย ถ้าเราใช้ให้ดีก็เกิดประโยชน์ด้านการเรียนรู้ได้ค่ะ หาเพื่อนต่างชาติไว้ใน Friend List ของเรา แล้วก็ฝึกพูดคุยกันบ่อย ๆ ก็จะทำให้ภาษาอังกฤษโดยเฉพาะการสื่อสารพัฒนาขึ้นได้ค่ะ

4. Subscribe ช่อง YouTube หรือ Podcasts ต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ
การกดรับข่าวสาร (Subscribe) ช่อง YouTube หรือ Podcasts ต่าง ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษ หรือที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ หรือช่องที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยให้เราฝึกฟังได้ทุก ๆ วันแล้วทักษะการฟังเราจะเพิ่มขึ้น เมื่อผ่านไปสักเดือนกว่า ๆ สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นตรงที่เราจะเริ่มฟังเข้าใจมากขึ้น หรือรวมถึงอ่านคำบางคำที่เราเคยได้ยินมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ได้กำหนดนะคะว่าจะฟังอะไร แต่ขอเป็นภาษาอังกฤษรับรองค่ะ ฟังต่อเนื่อง ฟังตอนเดินทางไปทำงาน ฟังตอนรอรถ หนึ่งเดือนก็เห็นผลต่างแล้วล่ะ

5. ไปต่างประเทศ
ถ้าไม่มีวิธีไหนจะบังคบตนเองให้เรียนภาษาอังกฤษได้แล้วคงต้องแพ็คกระเป๋าไปต่างประเทศจริง ๆ จัง ๆ แล้วล่ะ ดูซิว่าถ้าไม่หัดพูด ไม่หัดใช้ จะมีชีวิตรอดได้อย่างไร… วิธีการนี้จำเป็นการบังคับตัวเราเอง และปรับเราให้เข้ากับการเรียนภาษาอังกฤษ (เพราะธรรมชาติของมนุษย์ต้องเอาชีวิตรอด) แน่นอน หลายคนไปก็ไม่ได้ผลหรอกนะ เพราะว่าหาทางรอดด้วยการคุยกับเพื่อนชาวไทย หรือหาเพื่อน ๆ คนอื่นช่วยแปลให้ไงล่ะ …. แบบนี้อยู่กี่ปีก็ได้แค่ Yes, No, Ok แน่เลยจริงมั้ยคะ

6. ใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์ !?
เราอาจจะมีเพื่อนที่ชอบโพสต์ ชอบแชร์อะไรเป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ อย่ามองข้ามนะคะ เป็นประโยชน์เหมือนกันค่ะ ลองอ่านลองศึกษา แอบซุ่มจดคำศัพท์จากสิ่งเหล่านี้อย่างเงียบ ๆ ซักวันละ 1-2 โพสต์ ก็น่าจะได้คำศัพท์หลาย ๆ สิบคำต่อสัปดาห์แล้วนะคะ อาจจะเป็นพวกแชร์วิดีโอคลิปต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษ อะไรก็ได้ทั้งหมดค่ะ ขอแค่อย่าปล่อยผ่านก็พอ อะไรที่เข้ามาในชีวิตเป็นภาษาอังกฤษ เราจะตักตวงเข้าตัวให้หมดค่ะ รับรองเลยค่ะ 1-2 เดือนเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอนถ้าทำแบบนี้ทุกวัน

7. ถามเยอะ ๆ
หากมีคำถาม หรือข้อสงสัยในการเรียนภาษาอังกฤษหาคนที่ให้คำปรึกษาได้ แล้วถามพวกเขา ถามเยอะ ๆ จนกว่าข้อสงสัยของเราจะถูกไขให้กระจ่าง การถาม การหาคำตอบจะเป็นส่วนช่วยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ได้ผลมาก หรืออาจจะอ่านกระทู้ที่มีการตั้งคำถาม หรือโต้เถียงกันในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งวิธีนี้ครูณิชาก็ใช้บ่อย ๆ เช่นกันนะคะ ในอินเตอร์เน็ตมีกระทู้หรือเว็บบอร์ดมากมายที่รวมกลุ่มผู้เรียนภาษาอังกฤษให้ตั้งคำถาม ปรึกษาหาคำตอบในข้อสงสัยเรื่องการใช้งานภาษาอังกฤษในกรณีต่าง ๆ มากมายค่ะ แต่ใครที่นึกไม่ออกว่าจะถามใคร โดยเฉพาะนักเรียนของ Engnow.in.th ล่ะก็ เรามีบริการปรึกษาครูฟรี ไม่จำกัดคำถามตลอดปีในการเรียนไว้ให้นักเรียนถามข้อสงสัยได้ตลอดค่ะ

8. ติดตามดารา
ผสมผสานการเรียนโดยการเลือกดารา นักแสดง นักร้องที่เป็นชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก — A native English-speaking actor/actress or singer) ที่เราชื่นชอบ แล้วติดตามผลงานของเขา บทสัมภาษณ์ของเขา อ่าน ดูติดตามไปทุก ๆ สื่อโชเซียลกันไปเลย เราก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์ สำนวน หรือดาราบางคนใช้แสลงแปลก ๆ บ่อย ๆ เราก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์เหล่านั้นด้วย วิธีนี้ครูณิชาก็ชอบใช้เหมือนกัน เมื่อก่อนครูณิชาชอบ Josh Hutcherson ครูณิชาก็จะตามฟังเสียง (เคลิ้ม ๆ กันไป) ฟังบทสัมภาษณ์ อ่านบทสัมภาษณ์ซ้ำไป ซ้ำมาบ่อย ๆ ค่ะ

9. เริ่มจากสิ่งที่ต้องการจริง ๆ
การเรียนภาษาอังกฤษนั้น เราอาจจะเริ่มต้นจากเป้าหมายที่เราจะใช้งานจริง ๆ ก่อนก็ได้ เช่น ต้องใช้ในการทำงาน ก็ฝึกเกี่ยวกับ Business English หรือถ้าต้องการเรียนต่ออาจจะไปทาง Academic English หรือ English for Schools หรืออาจจะเลือกเรียนภาษาอังกฤษแบบเฉพาะทางไปเลย เช่น สาขาการแพทย์ เป็นต้น เพื่อให้การเรียนคำศัพท์ของเราไม่กว้างจนเกินไป เพื่อให้เราเรียนภาษาอังกฤษไว้ใช้งานได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเราจะเป็นวิศวกร แต่เรียนภาษาอังกฤษไปเรื่อยเปื่อย ไปเรียนเกี่ยวกับห้องครัว การทำอาหาร คำศัพท์เกี่ยวกับการทำอาหารแบบนี้ เดี๋ยวก็ลืมค่ะ เพราะไม่ได้ใช้จริง และไม่ได้ตรงต่อความต้องการจริง ๆ นั่นเองค่ะ

10. อย่าเหยียบย่ำทับถมตนเอง
อันนี้สำคัญมากเลยนะคะ หลายคนท้อแท้ สิ้นหวัง โบ้ยบ้าย ตีโพยตีพาย โทษฟ้า-อากาศ โทษตนเอง ครูณิชาอยากให้เลิกค่ะ เลิกทำแบบนี้ หันมาให้กำลังใจตนเอง กระตุ้นตนเอง หาแรงบันดาลใจดี ๆ ในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ ในการเรียนภาษาอังกฤษต่อไปค่ะ การเรียนรู้จะไปต่อได้ดี จะข้ามผ่านอุปสรรคได้ กำลังใจต้องดีจริงมั้ยคะ ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะไปหาจากไหนล่ะก็นึกถึง Engnow.in.th ได้เลยค่ะ รับรองค่ะกำลังใจมาเต็มแน่ ๆ เลย

Share
.