ใช้ Un และ Not อย่างถูกต้องตามหลัก grammar

4214

un- เมื่ออยู่หน้าคำกริยา จะหมายถึงการกระทำที่ตรงกันข้าม เป็น Prefix ที่ทำให้คำมีความหมายในเชิงปฏิเสธหรือตรงกันข้าม

เช่น คำว่า close มีความหมายว่า ปิด เมื่อนำ un มาวางไว้ข้างหน้า ก็จะแปลงร่างกลายเป็นคำว่า unclose และจะเปลี่ยนความหมายของคำเป็น ตรงกันข้ามทันที คือแปลว่า “เปิด”

.

not ที่แปลว่า ไม่ ตัวจริงเสียงจริงใช้ในความหมายปฏิเสธโดยใช้คู่กับคำกริยา หรือ คำคุณศัพท์ หรือคำนาม แต่กฎคือ มันจะเข้ามาเสียบหน้าคำพวกนี้ลอยๆ ไม่ได้ มันต้องมีตัวช่วยเข้ามาวางไว้หน้า not นั่นก็คือ กริยาช่วย (Auxiliary verb) มีทั้ง  Verb to be, Verb to do, Verb to have, และ modal verb ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มี not ตามหลังได้เลยในความหมายปฏิเสธ เช่น

  • Susie does not speak French.
  • I do not need your help.
  • You are not my boss.
  • She is not tall.
  • You should not wear shoes in Japanese home

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Un vs Not ให้ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างเช่นเพื่อนๆ มีใครสงสัยกันไหมว่า Unavailable กับ Not available นั้นมันต่างกันยังไงนะ หลายๆ คนก็คงจะเคยเห็นการใช้งานทั้งสอง แบบมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะคิดว่ามันต้องมีอันใดอันหนึ่งผิดแกรมม่าแน่ๆ เลย ใช่ไหม

จริงๆ แล้วทั้งสองแบบ Unavailable กับ Not available นั้นสามารถใช้งานได้ ไม่ได้ผิดแกรมม่าแต่อย่างใดนะ

แล้วมันแตกต่างกันไหมนะ มาดูตัวอย่างกัน

1. This video is not available in your country

2. Web page is unavailable while offline.

ประโยคแรกจะเห็นได้ว่าได้ใช้คำว่า not available นั้นหมายถึง ไม่สามารถใช้ได้เลย

ส่วนประโยคที่สองจะเห็นได้ว่าได้ใช้คำว่า unavailable นั้นหมายถึง ไม่สามารถใช้ได้ แค่ชั่วคราวเท่านั้น ยังมีโอกาสที่จะใช้ได้

จะเห็นได้ว่า การใช้ unavailable กับ not available นั้นให้ความหมายที่แทบจะเหมือนกันเลยก็คือ

การใช้งานไม่ได้ ไม่อยู่ แต่ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างกันที่ว่า not available นั้นหมายถึง ไม่สามารถใช้ได้เลย

ส่วน unavailable นั้นหมายถึง ไม่สามารถใช้ได้ แค่ชั่วคราวเท่านั้น ยังมีโอกาสที่จะใช้ได้ และนี้ก็เป็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยของการใช้ unavailable กับ not available อย่าลืมทำความเข้าใจแล้วนำไปใช้งานให้ถูกต้องกันนะทุกคน

Share
.