Will กับ Would

ไหนๆ ใครเคยงงกันบ้างครับว่า….  'will' กับ 'would' เหมือนหรือต่างกันอย่างไร  มาๆ วันนี้เรามาดูรายละเอียดกันให้กระจ่างกันเลยดีกว่าครับ... โดยทั่วๆไป เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า…. Will  แปลว่า  'จะ'  ซึ่งเป็นกริยาช่วยบอกถึงอนาคต  (Future)  ใช้ได้กับประธานทุกตัวและต้องตามหลังด้วย V.1 Would  เป็นกริยาช่วยในรูปอดีตของ  will  โดยแปลว่า 'จะ' เหมือนกัน แต่นำมาใช้ในความหมายที่สุภาพนุ่มนวลและใช้ได้กับประธานทุกตัว  อีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันระหว่าง will /would คือ ถ้าเราต้องการทำให้เป็นประโยคปฏิเสธ  ก็ทำได้โดยวาง ...

Will กับ Shall

คำว่า Will กับ Shall จริงๆ แล้วในประโยค Future Simple Tense แปลว่า 'จะ' เหมือนกันทั้งสองคำ  ว่าแต่ ….สองคำนี้เอาไปใช้อย่างไร ต่างกันอย่างไรล่ะ? โดยทั่วไปแล้ว…… I, We จะตามด้วย shall He, She, It, We, They จะตามด้วย will ตัวอย่างเช่น We shall...

การแสดงความต้องการ 3 ระดับ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ในภาษาอังกฤษจะมีคำกริยาที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ซึ่งนำมาใช้เป็นคำกริยาในประโยคที่แสดงความต้องการบางอย่างจากอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากประโยคบอกเล่า (Tell) ตามปกติทั่วไป  1) ประโยคคำสั่ง ซึ่งสามารถใช้ในเชิงบังคับได้ เช่น หัวหน้าสั่งลูกน้อง เป็นต้น ตัวอย่างเช่นคำว่า order      สั่ง (แบบทั่วไป)  I order you to leave now.  command   สั่ง (ด้วยอำนาจ)...

Indirect Speech

Indirect Speech (IS) คือ การเอาคำพูดของผู้อื่นที่ตัวเองได้ยินมาเล่าให้คู่สนทนาฟัง โดยดัดแปลงเป็นคำพูดของผู้เล่าอีกทีหนึ่ง  เช่น Jack said that it was his pen. แจ๊คพูดว่า มันเป็นปากกาของเขา จะเห็นได้ว่า การบอกเล่าในลักษณะนี้ มักมีคำเชื่อมอย่าง that ให้เห็นเสมอ หลักการเปลี่ยนประโยค Direct Speech...

Direct Speech

จะว่าไปแล้ว การเรียนวิชาภาษาอังกฤษในมหา'ลัยต่างๆนั้น เรื่องของ Direct Speech (และ Indirect Speech) ก็มักจะถูกพูดถึงไม่ใช่น้อย ดังนั้น เราก็ควรมอบพื้นที่ทั้งบทความเพื่อทำความเข้าใจมันสักหน่อย เผื่อเอาไปใช้ในการสอบอื่นๆได้ด้วย Direct Speech (DS) คือ การเอาคำพูดของผู้อื่นที่ตัวเองได้ยินได้ฟัง มาเล่าให้คู่สนทนาฟัง โดยมิได้เปลี่ยนแปลงคำพูดนั้นแม้แต่ส่วนใดส่วนหนึ่งเลย   ตัวอย่างเช่น   Jack said, “It is my pen.”  แจ๊คพูดว่า...