อยากถามภาษาอังกฤษให้ถูกใจและใช้ได้ทุกสถานการณ์ ต้องรู้วิธีตั้งคำถามแบบนี้!

59

เคยไหมที่กำลังคุยกับเพื่อนหรือพูดคุยกับคนต่างชาติแล้วอยากถามอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะถามยังไงให้ถูกต้องและธรรมชาติ? ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมากในการสื่อสาร เพราะไม่ว่าจะเป็นการขอข้อมูล, การถามเวลา, การสอบถามเส้นทาง หรือแม้แต่การขอคำแนะนำ เราต้องรู้วิธีตั้งคำถามให้ถูกโครงสร้างและเหมาะกับสถานการณ์ บทเรียนนี้จะช่วยให้เข้าใจพื้นฐานของการตั้งคำถาม พร้อมตัวอย่างหลากหลาย และเทคนิคที่ช่วยให้การถามคำถามของคุณดูเป็นธรรมชาติและมั่นใจมากขึ้น เริ่มเรียนรู้ไปพร้อมกันเพื่อพูดภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ประโยคคำถาม (Questions) ในภาษาอังกฤษมีหลายรูปแบบหลักๆ ที่ควรรู้ ได้แก่ yes/no questions, wh-questions, choice questions และ tag questions การตั้งคำถามพื้นฐานต้องเข้าใจตำแหน่งของคำถามและโครงสร้าง เช่น yes/no questions จะมีโครงสร้างคือ Verb + Subject + Complement เช่น “Are you happy?” หรือ “Do you like coffee?” ส่วน wh-questions จะเริ่มด้วยคำถาม WH อย่างเช่น who, what, where, when, why, และ how ตามด้วยโครงสร้าง Verb + Subject ตัวอย่างง่ายๆ คือ “Where do you live?” หรือ “What is your name?” นอกจากนี้ ชนิดของประโยคที่ใช้จะขึ้นกับสิ่งที่ต้องการถาม เช่น ถ้าต้องการคำตอบใช่/ไม่ใช่ ก็ใช้ yes/no questions เป็นต้น การเข้าใจโครงสร้างเหล่านี้เป็นหลักการสำคัญเพื่อช่วยให้ตั้งคำถามได้ถูกต้องและใช้ได้จริงในแต่ละสถานการณ์

.

ในแต่ละสถานการณ์ การตั้งคำถามต้องปรับใช้ให้เหมาะสม เช่น

1. การถามข้อมูลทั่วไป (Information Questions)
– ตัวอย่าง: “What time does the movie start?” (หนังเริ่มกี่โมง?) หรือ “Where is the nearest hospital?” (โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน?)

2. การถามเพื่อขออนุญาตหรือคำแนะนำ
– ตัวอย่าง: “Can I use your phone?” (ขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหม?) หรือ “What should I do next?” (ฉันควรทำอย่างไรต่อไป?)

3. การถามเพื่อยืนยันหรือให้แน่ใจ (Tag Questions)
– ตัวอย่าง: “You’re coming with us, aren’t you?” (คุณจะไปกับเราด้วยใช่ไหม?) ซึ่งช่วยให้บทสนทนาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

4. การถามเลือก (Choice Questions)
– ตัวอย่าง: “Do you want tea or coffee?” (คุณต้องการชา หรือ กาแฟ?)

การใช้ตัวอย่างจริงช่วยให้เข้าใจการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นและพร้อมใช้งานจริงทันที

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ๆ ในการตั้งคำถามของคนไทย เช่น

1. การใช้โครงสร้างผิด เช่น วางคำถามผิดตำแหน่ง “You are happy?” แทนที่ต้องเป็น “Are you happy?” เพราะภาษาอังกฤษใช้โครงสร้าง Verb + Subject ในคำถาม

2. ลืมเติม auxiliary verbs ในบางคำถาม เช่น “You like coffee?” ควรเป็น “Do you like coffee?”

3. สับสนการใช้ Wh-questions และ Yes/No questions เช่น “What you like?” ควรเป็น “What do you like?”

4. ใช้คำถามซ้อนโดยไม่ถูกต้อง เช่น “Can I know where you live?” ควรใช้ “Can I ask where you live?”

5. ละการใช้ tag questions หรือใช้ผิดรูปแบบ เช่น “You are coming, isn’t it?” ควรเป็น “You are coming, aren’t you?”

การรู้ข้อผิดพลาดเหล่านี้จะช่วยให้คุณแก้ไขและฝึกใช้ได้ถูกต้องเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร

เคล็ดลับการจำโครงสร้างการตั้งคำถามคือ

– สำหรับ yes/no questions ให้จำว่า auxiliary verb หรือ verb to be ต้องอยู่หน้าประธานเสมอ เช่น Are I -> Am I?

– สำหรับ wh-questions ให้จำคำถาม WH ไว้ในใจ และทำประโยคหลักให้เหมือน yes/no question เช่น “Where + do you live?”

– ใช้ tag questions โดยจดจำ auxiliary verb ที่ตรงกันกับประโยคหลัก และกลับ polarity เช่น positive เป็น negative และ vice versa เช่น “You like coffee, don’t you?”

– ฝึกตั้งคำถามในชีวิตประจำวันบ่อยๆ เช่น ถามเพื่อนเรื่องเวลาหรือสถานที่ จะช่วยให้แม่นยำขึ้น

เคล็ดลับเหล่านี้เป็นเครื่องมือช่วยจำที่ง่ายและนำไปใช้ได้จริง

เปรียบเทียบระหว่าง Yes/No Questions กับ Wh-Questions

– Yes/No Questions: โครงสร้างคือ auxiliary verb + subject + main verb (ถ้า verb ไม่ใช่ to be) ใช้ถามเพื่อตอบใช่หรือไม่ใช่ เช่น “Do you like pizza?”
– Wh-Questions: เริ่มด้วยคำถาม Wh + auxiliary verb + subject + main verb ใช้ถามข้อมูลเชิงลึก เช่น “What do you like?”

– ความแตกต่างที่สำคัญคือ Yes/No questions ใช้ถามคำตอบสั้น ๆ ใช้ confirm ข้อมูล, ส่วน Wh-questions เน้นถามรายละเอียดมากขึ้น

ตัวอย่าง:
* Yes/No: “Are you ready?” (คุณพร้อมหรือยัง?)
* Wh-Question: “When are you ready?” (คุณพร้อมเมื่อไหร่?)

ความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้ถามคำถามได้ถูกต้องเหมาะสมและไม่สับสน

การใช้งานขั้นสูง เช่น

– คำถามเชิงสุภาพ (Polite Questions): ใช้ modal verbs เช่น ‘Could you tell me…’, ‘Would you mind…’ เพื่อทำให้คำถามสุภาพและเหมาะกับสถานการณ์ทางการ

– การใช้ contractions ในคำถาม เช่น “Aren’t you coming?” แทนที่ “Are you not coming?” ซึ่งช่วยให้เสียงพูดดูเป็นธรรมชาติ

– Tag questions เชิงแสดงความเห็นหรือชวนคุยมากกว่าถามข้อมูล เช่น “It’s a beautiful day, isn’t it?”

– Exceptions เช่น การใช้ “Why don’t you…” เพื่อชวนให้ทำบางอย่างหรือแนะนำอย่างสุภาพ

ตัวอย่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจในการใช้ภาษาและพูดได้อย่างคล่องแคล่ว

การตั้งคำถามเป็นทักษะที่สำคัญในภาษาอังกฤษและมีหลายรูปแบบที่ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ตั้งแต่พื้นฐานเช่น yes/no และ wh-questions ไปจนถึงเทคนิคใช้งานขั้นสูง เช่น คำถามเชิงสุภาพและ tag questions ที่ใช้ในการสนทนา บทเรียนนี้เน้นให้ความรู้ที่เหมาะกับชีวิตจริงและตัวอย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกมั่นใจและพร้อมใช้ภาษาอังกฤษได้ในหลากหลายสถานการณ์ หมั่นฝึกฝนและลองตั้งคำถามกับเพื่อนหรือในชีวิตประจำวัน แล้วจะเห็นพัฒนาการชัดเจนในการสื่อสารของคุณ

Share
.