บทสรุปความแตกต่างของ other / another / the other / the others / others ชวนสับสน!?

3784

เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของ other / another / the other / the others / others ซึ่งมักพบว่าใช้ผิดกันเสมอๆ ความจริงแล้วคำเหล่านี้ใช้งานต่างกัน เรามีเรียนรู้เพื่อที่จะใช้งานกันให้ถูกต้องดีกว่า

หลักการใช้ other / another / the other / the others / others

.

1. other / another / the other / the others / others สามารถเป็นได้ทั้ง adjective วางไว้หน้าคำนาม และเป็นได้ทั้ง pronoun หรือ สรรพนามซึ่งใช้แทนคำนาม

2. Another + N.singular (Another = a/an + other ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์แบบไม่เฉพาะเจาะจง)แปลว่า อีก”อันหนึ่ง”หรือ ”บุคคลหนึ่ง” ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับสิ่งหนึ่งหรือบุคคลหนึ่งที่ได้พูดถึงไปแล้ว

3. Other + N.singular แปลว่าอีก”อันหนึ่ง”หรือ”บุคคลหนึ่ง”ซึ่งแตกต่างหรือแปลกแยกจากสิ่งหนึ่งหรือบุคคลหนึ่งที่ได้พูดถึงไปแล้ว

4. Others + N.plural แปลว่าอีก”หลายอัน”หรือ”บุคคลมากกว่าหนึ่ง”ซึ่งแตกต่างหรือแปลกแยกจากสิ่งหนึ่งหรือบุคคลหนึ่งที่ได้พูดถึงไปแล้ว

5. The other + N.singular  (The other = the + other ซึ่ง the จะแสดงความชี้เฉพาะ)แปลว่า อีก”หนึ่งอัน” หรือ”บุคคลหนึ่ง” ที่เหลือ ที่คนพูดกับคนฟังรู้กันว่าคืออันไหน

6. The other + N.Plural หรือ the others แปลว่า อีก”หลายอัน” ”บุคคลมากกว่าหนึ่ง” ที่เหลือ ที่คนพูดกับคนฟังรู้กันว่าคืออันไหน

7. Other สามารถวางข้างหลัง some, any และ no ใช้ other ร่วมกับคำนามนับได้ที่อยู่ในรูปพหูพจน์และ some หรือ any หรือ no (คำใดคำหนึ่ง) ในกรณีที่เข้าใจตรงกันว่า กำลังพูดถึงคำนามใดอยู่  สามารถละคำนามไว้โดยไม่ต้องกล่าวถึงได้ ในกรณีเช่นนี้ other จะต้องอยู่ในรูปพหูพจน์ แต่ก็เป็นไปได้ที่ในบางครั้งจะใช้เพียงแค่ other เท่านั้นซึ่งมักจะพบไม่บ่อยเท่าใดนัก เช่น Do you have any others?

ตัวอย่างเช่น

  1. มีลูกบอลอยู่สามลูก ลูกแรกสีแดง ลูกที่สองสีน้ำเงิน ลูกที่สามสีเขียว

There are three balls. The first one is red. Another one is blue. The other one is green.

  • ใช้ another เพราะว่าสีน้ำเงินเป็นลูกถัดไป ที่ไม่ใช่ลูกสุดท้าย
  • ใช้ the other เพราะว่ามันเหลืออยู่ลูกเดียว เรารู้จำนวนที่เหลือ และจำนวนที่เหลือเป็นเอกพจน์

2. มีปากกา 3 แท่ง แท่งที่หนึ่งสีน้ำเงิน แท่งที่สองสีแดง แท่งที่สามสีดำ

There are three pens. The first one is blue. Another one is red. the other one is black.

  • ใช้ another เพราะว่าปากกาสีแดงมีแท่งเดียว ที่ยังไม่ใช่แท่งสุดท้าย
  • ใช้ the other เพราะว่าเหลือแท่งเดียว เรารู้จำนวนที่เหลือ และจำนวนที่เหลือเป็นเอกพจน์

3. มีปากกา 5 แท่ง แท่งที่หนึ่งสีน้ำเงิน แท่งที่สองสีแดง อีก 2 แท่งเป็นสีดำ

There are five pens. The first one is blue. Another one is red. The others are black.

ใช้ the others เพราะว่า รู้จำนวนปากกาที่เหลือ และปากกาที่เหลืออีกสองแท่งเป็นสีดำ

4. มีปากกาสิบกว่าแท่งซึ่งเราไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ในนั้นมีปากกาแดง 1 แท่ง นอกนั้นเป็นสีน้ำเงิน

One of the pens is red. Others are blue.

ใช้ others เพราะว่าไม่รู้จำนวนแน่นอน แต่รู้ว่ามากกว่า 1

5. มีปากกา 12 แท่ง สีแดง 10 แท่ง อีกแท่งเป็นสีน้ำเงิน อีกแท่งเป็นสีดำ

The first one is blue. Another one is black. The others (= the other pens) are red.

ใช้ the others เพราะว่ารู้จำนวนแน่นอน และรู้ว่ามีมากกว่าหนึ่ง

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

I want another piece of cake. ฉันอยากได้เค้กอีกชิ้นหนึ่ง

I will have another cup of milk. ฉันจะดื่มนมอีกแก้วหนึ่ง

Don’t be loud. You will disturb other people. อย่าเสียงดัง เดี๋ยวจะรบกวนคนอื่นนะ

I love singing, but other people love dancing. ฉันรักการร้องเพลง แต่คนอื่นๆ ชอบการเต้นรำ

I want this book and I also want others too. ฉันอยากได้หนังสือเล่มนี้ และก็อยากได้เล่มอื่นๆด้วย

(ความหมายเดียวกับ I want this book and I also want other books too.)

I took one book out of the bag and left the others in there.

ฉันหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และเอาที่เหลือทิ้งไว้ในกระเป๋า

(ความหมายเดียวกับ I took one book out of the bag and left the other books in there.) 

สรุป

  1. another + นามนับได้เอกพจน์ แปลว่า อีกอันหนึ่ง

2. other + นามนับได้ พหูพจน์ แปลว่า อื่นๆ

3. the other + นามนับได้ เอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ (เฉพาะเจาะจง) แปลว่า อีกส่วนที่เหลือทั้งหมด

4. others และ the others เหมือน  other + นามพหูพจน์ หรือ the other + นามพหูพจน์ พวกที่เหลือ (เรารู้จำนวนแน่นอนว่าเหลือเท่าไหร่ และรู้ว่ามากกว่า 1)

5. Others พวกที่เหลือ (เราไม่รู้จำนวนแน่นอนว่าเหลือเท่าไหร่ แต่รู้ว่ามากกว่า 1)

6. others ไม่เจาะจง แต่ the others เจาะจง

Share
.